Search This Blog

Friday, January 9, 2009

ไปเยี่ยมคุณยาย

เริ่มเดินทางหลังวันคริสมาสต์ เนื่องจากไม่อยากเดินทางช่วงปีใหม่เพราะคาดว่าคงจะไม่สะดวกกับแม่ลูก 2

ไปขึ้นเครื่องบินที่สุวรรณภูมิช่วงก่อนเที่ยงอากาศกำลังดี ขณะรอสองพี่น้องจอมซนก็เป็นต้องสำรวจทุก ๆ ที่





ไปกับเด็ก ๆ ก็ได้ขึ้นเครื่องก่อนใครเลยได้เลือกที่นั่งถูกใจ พี่ควินน์เลือกใกล้น่าต่างจะได้ชมวิวสวยบนท้องฟ้า ท้องฟ้าสวยงามอยู่ได้ไม่นานอากาศก็เปลี่ยนฉับพลันเนื่องจากที่ใต้ฝนตกหนักมากเป็นเวลานานติดต่อกันเกือบ 3 เดือนแล้ว วันนี้ก็ไม่ผิดหวังค่ะ ฝนตกเช่นเคย

คุณป้าสีมารับที่สนามบินพร้อมกับลุงมาและพี่น้ำใส


โฉมหน้าพี่น้ำใสจอมซน
เที่ยวคราวนี้พี่ควินน์กะน้องลิสาได้สัมผัสชีวิตท้องทุ่งจริง ๆ ค่ะ

เนื่องจากบ้านคุณยายล้อมรอบไปด้วยสวนยางพารา สวนผลไม้ ลองกอง เงาะ ทุเรียน ขนุน มะขาม มังคุด มะพร้าว ต้นตาล พืชผักต่าง ๆ อีกทั้งยังมีทุ่งหญ้าแปลงใหญ่สำหรับเลี้ยงโคนมของลุงตุดที่น้องควินน์ก็ได้แวะไปเยี่ยมเยียนหลายครั้งหลายครา คอยดูลุงตุดรีดนมวัวใส่ถัง



ไปดูฟาร์มเลี้ยงหมูของลุงเพ้งควินน์ตื่นตาตื่นใจกับหมูหลายร้อยตัวตั้งแต่แรกคลอดจนโต ประมาณว่ามีทุกช่วงอายุ พี่ควินน์เคยได้เข้าไปดูหลายครั้งแล้วแต่คราวนี้พี่ควินน์คงโตพอที่จะเข้าใจอะไรมากขึ้นทำให้เขาดูเหมือนสนใจถามคำถามมากเป็นพิเศษ (ไม่ได้ถ่ายรูปหมูมาเลยค่ะ)



เจ้าห่านตัวนี้น้องลิสาค่อนข้างจะกลัว เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน ลุงเลี้ยงเอาไว้ใล่งูไม่ให้เข้ามาบริเวณคอกหมู


สิ่งที่น้องลิสาโปรดปรานมากที่สุดคือเจ้านี่ค่ะ


ไม่ว่าจะไปไหนต้องคอยมองดูข้างทางเพื่อจะดูวัว

ได้ไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวไม่กี่แห่งเนื่องจากฝนตกไม่สะดวกกับเด็ก ๆ แต่ก็ยังไปมาได้ 3 แห่ง
ถ้ำสุมโน พี่ควินน์ตื่นตาตื่นใจกับหินงอกหินย้อย และยิ่งได้รู้ว่าถ้ำอยู่ใต้ภูเขาใหญ่ยิ่งสนใจเรื่องถ้ำมากขึ้น คุยเรื่องถ้ำไม่ยอมหยุดเลย



ถ้ำสุมะโน มีถ้ำอื่น ๆ อีกหลายถ้ำ เช่นถ้ำน้ำลอด ในภาพนี้คือต้นน้ำของถ้ำน้ำลอดซึ่งยาวหลายร้อยเมตรมีน้ำลอดผ่านถ้ำจนทะลุอีกฝั่งหนึ่งของภูเขา ในถ้ำติดไฟไว้เป็นจุด ๆ แต่ก็ยังมืดสลัว ๆ ได้บรรยากาศเที่ยวถ้ำค่ะ พี่ควินน์กลัวความมืดเล็กน้อย


ในถ้ำนี้ถ้าใครต้องการปฏิบัติธรรมก็เชิญได้ค่ะ ทางวัดจัดสถานที่พักสำหรับผู้ที่ต้องการปฏิบัติธรรมทั้งชั่วคราวและระยะยาวค่ะ มีอาหารมังสวิรัติ สถานที่ปฏิบัติธรรมอยู่ในถ้ำนี้เลยค่ะ แต่แยกจากส่วนที่ให้คนทั่วไปเข้าชมค่ะ ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ ใครสนใจติดต่อผ่านทางกานต์ได้เลยค่ะ เนื่องจากป้ามรแวะไปบ่อย ๆ และป้ามรยังยินดีให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางสายนี้เป็นอย่างดีค่ะ

อีกแห่งหนึ่งคือบ่อน้ำพุร้อน อ. เขาชัยสน อยู่ในวัดเขาชัยสน




เป็นน้ำพุร้อนจากภูเขาความร้อนเท่าไหร่กานต์ไม่เคยทราบ 5555 แต่ถ้าเอามาอาบเหมือนจะลวกให้สุข แต่ก็ไม่เคยเห็นลวกใครให้สุก ทางวัดได้จัดเตรียมบ่อสำหรับลงไปนั่งเล่นน้ำด้วยค่ะ ตอนแรกพี่ควินน์ไม่กล้วลงไป แค่เอานิ้วจุ่มลงไป พอเห็นพี่น้ำใส พี่ต่อ พี่เวป กระโดดลงไปก็ไม่รีรอกระโดดเสียงดังตุ้ม! แล้วก็รีบวิ่งหน้าตั้งกลับขึ้นมา แค่อึดใจเดียวก็กระโดดลงไปอีก งานนี้ฝนตกฟ้าร้องก็ไม่ยอมหยุด

ที่เที่ยวอีกแห่งของพี่ควินน์กับน้องลิสาคราวนี้ไปเที่ยวเกาะหมาก เป็นทะเลน้ำจืดไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก แต่เป็นแหล่งทำเงินของรังนกนางแอ่นค่ะ โชคไม่เข้าข้างอีกนั่นแหละฝนตก เลยอดนั่งเรือไปชมรักนกนางแอ่น และรังนกที่เกาะสี่เกาะห้า แถมไม่ได้รูปมาเลย เพราะฝนตกทั้งวัน

คริปนี้สนุกบนความทุกข์เนื่องจากฝนตกตลอดทั้ง 11 วันที่อยู่ที่พัทลุง
ซ้ำร้ายน้ำท่วมติดอยุ่ในบ้าน 2 วัน เนื่องจากตัวบ้านห่างจากถนนสาธารณะประมาณ 500 เมตร น้ำจึงท่วมเฉพาะถนนทางเข้าบ้านประมาณ 400 เมตร จุดที่น้ำท่วมมากที่สุดประมาณ 100 ซม. รถทุกชนิดเข้าไม่ได้ ลุงเล็กรู้ตัวก่อนเลยขับรถยนต์ลุยน้ำออกไปจอดไว้ที่บ้านลุงเพ้ง ลุง ๆ ป้า ๆ คนอื่น ๆ ต่างเดินลุยน้ำเอากับข้าวมาส่ง โชคดีที่น้ำไม่เข้ามาข้างในบ้านเพราะตัวบ้านค่อนข้างสูงแต่ก็ปริ่ม ๆ เลยล่ะ


คนที่สนุกที่สุดเห็นจะเป็นพี่น้ำใส พี่ส้มหวีด กระโดดลงเล่นน้ำอย่างสำราญใจ พี่ควินน์ได้แต่วิ่งเล่นไม่กล้าว่ายน้ำแบบพี่ ๆ ทั้งสอง

ไม่ได้ถ่ายภาพขณะน้ำท่วมเนื่องจากดันไปลืมกล้องถ่ายรูปไว้ที่บ้านป้าผึ้ง เลยไม่ได้เก็บภาพซน ๆ ของจอมซนทั้งหลาย
เดินทางกลับด้วยรถไฟซึ่งเป็นเสียงเรียกร้องจากพี่ควินน์ พี่ควินน์บอกว่านั่งเครื่องบินน่าเบื่อจะตายได้แต่ให้นั่งรัดเข็มขัด ไม่สนุกเลย คุณพ่อเลยใจอ่อนยอมให้นั่งรถไฟได้ที่นั่งพิเศษห้องส่วนตัว


สองพี่น้องตื่นเต้นมากที่ได้ขึ้นรถไฟได้นอนเตียงสองชั้น พี่ควินน์เอ่ยปากขอเตียง 2 ชั้นบ้าง
ในห้องพิเศษไม่ได้ต่างจากชั้นนอนปกตินักหรอก แต่ดีตรงที่ไม่มีคนพลุกพล่าน นั่งเล่นกันในห้องสามคนแม่ลูกค่ะ แล้วก็นอนตื่นมาไม่นานก็ถึงกรุงเทพฯ ละ ไม่ได้ลำบากอะไรเลย
จบคริปนี้ด้วยความทุลักทุเล แต่พี่ควินน์กะน้องลิสาก็ยังพูดถึงญาติ ๆ คนนั้นคนนี้ไม่ขาดปากคุ้มจริง ๆ ค่ะ

No comments: